
เปลี่ยนหน้าท้องหย่อนคล้อย ย้วย ให้เฟิร์มกระชับ
ปัญหาหน้าท้องหย่อนคล้อย เหี่ยวย่น ย้วย ส่วนใหญ่จะเกิดกับกลุ่มคุณแม่หลังคลอด หรือคนที่ลดน้ำหนักลงอย่างรวดเร็ว จนทำให้ผิวหนังบริเวณหน้าท้องที่มีการยืดขยายและหดอย่างรวดเร็ว เกิดการเหี่ยวย่นตามมาภายหลังคลอด หรือหลังน้ำหนักลดลง หนุ่มสาวคนไหนเจอปัญหานี้อยู่อย่าเพิ่งท้อค่ะ เพราะเทคโนโลยีทางการแพทย์อย่างการ “ตัดหนังหน้าท้อง” สามารถช่วยเรียกคืนหน้าท้องเรียบ กระชับให้กลับมาได้ ซึ่งการผ่าตัดหนังหน้าท้องส่วนเกินนี้ หากทำร่วมกับการดูดไขมันด้วย ก็จะช่วยทำให้รูปร่างนอกจากกระชับแล้ว ยังได้เอวเอสคืนมาในครั้งเดียว
วันนี้ Jirakorn clinic (จิรกรคลินิก) อยากชวนทุกคนมาทำความเข้าใจใครเหมาะกับการผ่าตัดหนังหน้าท้องบ้าง ข้อดีของการผ่าตัดหนังหน้าท้องมีอะไรบ้าง วิธีการผ่าตัดมีกี่แบบ คุณหมอซ่อนรอยแผลไว้ตรงไหน ปลดล็อคทุกข้อสงสัยได้จากบทความนี้เลยค่ะ!
ปัญหาพุงย้วย ไม่ยุบของคุณแม่หลังคลอด
คุณแม่หลังคลอดส่วนใหญ่จะพบกับปัญหารูปร่างไม่เหมือนเดิม ทั้งเรื่องน้ำหนักไม่ลดลงหลังคลอด พุงไม่ยุบหาย มีไขมันหนา หน้าท้องย้วย หน้าท้องแตกลาย และที่สำคัญคือ หน้าท้องไม่แบนราบเหมือเดิม ถึงแม้จะใช้วิธีการออกกำลังกาย หรือการลดน้ำหนักทุกวิธีแล้วก็ยังไม่เห็นผล ซึ่งสาเหตุที่แท้จริงแล้ว เกิดจากภาวะกล้ามเนื้อหน้าท้องแยก
อยากให้คุณแม่มาทำความเข้าใจในเรื่อง กล้ามเนื้อหน้าท้องแยกหลังคลอดกันก่อน! โดยปกติแล้วการตั้งครรภ์จะเพิ่มแรงดันที่บริเวณท้อง ทำให้กล้ามเนื้อหน้าท้องเกิดการเปลี่ยนแปลงได้ เมื่อครรภ์ใหญ่ขึ้นกล้ามเนื้อท้องก็จะขยายใหญ่ขึ้น เราเรียกว่า Diastasis Recti คือ การที่กล้ามเนื้อหน้าท้องเกิดการยืดขนาดมากเกินไป เพราะต้องรองรับการขยายตัวของมดลูก และเมื่อคลอดลูกแล้ว กล้ามเนื้อหน้าท้องไม่สามารถกลับไปขนาดตามเดิมได้ จึงเกิดภาวะกล้ามเนื้อหน้าท้องแยก แม้จะออกกำลังกายอย่างหนัก หรือลดมื้ออาหารก็ไม่สามารถทำให้หน้าท้องกลับมากระชับ เรียบแบนได้ วิธีการเดียวที่สามารถทำให้กล้ามเนื้อหน้าท้องแยกกลับมายึดติดกันได้นั่นคือ การเย็บ เพื่อกระชับช่องแยกตรงกลางให้กลับมา
“ตัดหนังหน้าท้อง” มีดีกว่าแค่กระชับ
การผ่าตัดหนังหน้าท้อง เป็นการผ่าตัดผิวหนังส่วนเกินที่มีความหย่อนคล้อย ย้วย เหี่ยวย่นบริเวณหน้าท้องออก ซึ่งในคุณแม่หลังคลอดจะมีการเย็บกระชับกล้ามเนื้อด้านในให้กลับคืนมาร่วมด้วย ทำให้หน้าท้องกระชับ เรียบตึง และแบนราบ นอกจากนี้ การผ่าตัดหนังหน้าท้องยังมีข้อดีนอกเหนือจากการช่วยให้ผิวหนังกระชับ นั่นคือ การลดหรือกำจัดรอยแตกลายให้หายไปได้ด้วย แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับตำแหน่งของการแตกลายด้วยนะคะ เช่น ถ้าแตกลายบริเวณหน้าท้องส่วนล่าง จะสามารถตัดออกไปได้
ใครบ้างที่เหมาะกับการตัดหนังหน้าท้อง ?
- คนที่มีปัญหาหน้าท้องหย่อนคล้อย ย้วยในระดับที่รุนแรง
- คุณแม่หลังคลอดที่มีหน้าท้องย้วย หรือมีไขมันส่วนเกิน หรืออาจมีปัญหาผิวหน้าท้องแตกลายร่วมด้วย
- คุณแม่หลังคลอดที่ไม่มีแพลนจะมีลูกเพิ่มอีกในอนาคต
- คนที่ลดน้ำหนัก โดยน้ำหนักลดลงเร็วเกินไป จนทำให้มีผิวหนังหน้าท้องส่วนเกินเยอะ
- คนที่มีปัญหาหน้าท้องย้วยจากการดูดไขมันออกเยอะเกินไป
- คนที่มีปัญหาหน้าท้องห้อยย้อยจากไขมันสะสมและขาดกล้ามเนื้อพยุงหน้าท้อง
แล้วใครบ้างที่ "ไม่เหมาะ" กับการตัดหนังหน้าท้อง ?
แม้การตัดหนังหน้าท้องจะเป็นศัลยกรรมที่คุณแม่หลังคลอดนิยมทำกันแพร่หลาย แต่ไม่ใช่ทุกคนที่เหมาะจะทำ ซึ่งผู้ที่อาจไม่เหมาะกับศัลยกรรมตัดหนังหน้าท้อง มีดังนี้
- ผู้ที่มีผิวหนังหน้าท้องหย่อนยานเพียงเล็กน้อย แพทย์อาจแนะนำให้ใช้วิธีดูดไขมันหรือออกกำลังกายแทน
- ผู้ที่มีแผนการจะมีบุตรอีกครั้งในอนาคต เนื่องจากหากตัดหน้าท้องไปแล้วและเกิดการตั้งครรภ์อีก โอกาสที่หนังหน้าท้องจะหย่อนยานก็อาจเกิดขึ้นได้อีกครั้ง
- ผู้ที่มีโรคประจำตัวบางชนิด เช่น โรคเบาหวาน โรคเกี่ยวกับระบบไหลเวียนเลือด โรคมะเร็ง โรคเกี่ยวกับผิวหนัง ผู้ที่ติดเชื้อไวรัส HIV ควรปรึกษาแพทย์อย่างละเอียดก่อนรับบริการ
หน้าท้องหย่อนแบบนี้ ควรเลือกเทคนิคแบบไหนดี ?
การผ่าตัดหนังหน้าท้อง เป็นทางลัดของการปรับรูปร่างให้สมส่วนและดูดีขึ้นได้ โดยผิวหนังหน้าท้องจะตึงกระชับ แบนราบทันทีหลังทำ ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 เทคนิคด้วยกัน คือ
- การผ่าตัดหนังหน้าท้องแบบ Full Abdominoplasty
เป็นการตัดหนังหน้าท้อง พร้อมกับการย้ายตำแหน่งสะดือ และสามารถทำร่วมกับการเย็บกล้ามเนื้อ แก้ไขปัญหากล้ามเนื้อหน้าท้องแยกได้ในคราวเดียว เหมาะกับคนที่มีปัญหาหน้าท้องหย่อนคล้อยค่อนข้างเยอะ มีไขมันส่วนเกินในระดับหนึ่ง หรืออาจมีปัญหากล้ามเนื้อหน้าท้องแยกร่วมด้วย ซึ่งจะพบได้บ่อยในคุณแม่หลังคลอด และต้องไม่มีแพลนที่จะมีลูกอีกในอนาคตเทคนิคนี้จะสามารถแก้ไขปัญหาได้ทั้งหน้าท้องส่วนบนและส่วนล่าง สำหรับการผ่าตัดด้วยเทคนิค Full Abdominoplasty จะมีการเปิดแผลยาว แต่ไม่ต้องกังวลกันนะคะ เพราะว่ารอยแผลจะอยู่ในตำแหน่งเหนือหัวหน่าว ซึ่งเป็นตำแหน่งเดียวกันกับขอบกางเกงชั้นใน หรือซ่อนอยู่แนวบิกินีไลน์ ทำให้สังเกตได้ยาก และจะจางลงในระยะเวลาประมาณ 3-6 เดือนค่ะ - การผ่าตัดหนังหน้าท้องแบบ Mini Abdominoplasty
เป็นการตัดหนังหน้าท้องส่วนเกินที่ไม่ต้องมีการย้ายสะดือ เหมาะกับคนไข้ที่มีหน้าท้องหย่อนคล้อยและมีไขมันส่วนเกินเล็กน้อย โดยสามารถเย็บกล้ามเนื้อแยกได้เช่นเดียวกัน ซึ่งจะมีการเปิดแผลที่สั้นกว่าเทคนิค Full Abdominoplasty ที่บริเวณเหนือหัวหน่าว
นอกจากนี้ หากใครต้องการให้รูปร่างบริเวณเอวมีสัดส่วนชัดเจนมากขึ้น ก็สามารถดูดไขมันร่วมด้วยได้ เพื่อผลลัพธ์ของการมีหน้าท้องแบนเรียบ กระชับ และมีเอวที่ดูคอดกิ่วเหมือนใส่คอร์เซ็ตรัดไว้ตลอดเวลาในครั้งเดียว ซึ่งใครเหมาะกับเทคนิคไหน แพทย์จะมีการพิจารณาตามความเหมาะสมกับปัญหาที่แตกต่างกันไปในแต่ละเคสค่ะ

ข้อดีของการตัดหนังหน้าท้อง
- ขจัดปัญหาหน้าท้องที่หย่อนห้อย หรือเนื้อผิวหน้าท้องดูเหลวไม่กระชับ
- ทำให้แผ่นท้องดูแบนราบ ไม่เป็นคลื่นหรือเป็นชั้น
- ทำให้ช่วงเอวดูกระชับ หรือคอดเล็กเป็นตัว S มากขึ้น
- ช่วยเสริมมิติของร่อง 11 หรือรอยกล้ามหน้าท้องของผู้หญิงให้ดูชัด ทำให้ดูเป็นคนหุ่นสุขภาพดียิ่งขึ้น
- เสริมความมั่นใจในการสวมใส่เสื้อผ้า ไม่ต้องกลัวคนอื่นเห็นความหย่อนยาน
- รูปร่างดูสวยงามขึ้นภายในเวลาอันรวดเร็ว
ทั้งนี้ ผลลัพธ์ที่ได้อาจแตกต่างกันออกไปในแต่ละคน หากคุณสนใจตัดหนังหน้าท้องก็ควรปรึกษาแพทย์ถึงผลลัพธ์ที่เหมาะสมที่สุดเฉพาะตัวคุณ
เตรียมตัวอย่างไรให้พร้อมก่อนเข้ารับการผ่าตัดหนังหน้าท้อง ?
- เมื่อตัดสินใจแล้วว่าต้องการตัดหนังหน้าท้อง ควรเข้ารับการปรึกษา ตรวจวิเคราะห์ และวางแผนการรักษากับแพทย์ โดยแพทย์จะทำการประเมินก่อนการผ่าตัดตกแต่งหน้าท้อง ดังนี้
- ปริมาณผิวหนังและไขมันที่ต้องการตัดออก
- ความต้องการดูดไขมันหน้าท้องบริเวณเหนือสะดือและข้างเอว
- เลือกเทคนิคที่ใช้ในการผ่าตัด โดยพิจารณาตามความเหมาะสม
- ลักษณะของสะดือที่ต้องการ
- ขนาดและความยาวของแผลเป็น รวมทั้งตำแหน่งและความโค้งของแผลเป็น
- การผ่าตัดตกแต่งหน้าท้องขึ้นอยู่กับความหย่อนของกล้ามเนื้อหน้าท้อง บางคนตัดตกแต่งหนังหน้าท้องออกเพียงอย่างเดียว ในบางคนต้องเย็บกล้ามเนื้อหน้าท้องร่วมด้วย
- แจ้งโรคประจำตัว, ประวัติการรักษาหรือการผ่าตัด, ประวัติการแพ้ยา-แพ้อาหาร และยา-วิตามิน ที่ใช้อยู่เป็นประจำให้แพทย์ทราบ
- งดการรับประทานยา, วิตามิน หรือาหารเสริมที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด ตามคำแนะนำของแพทย์
- งดดื่มแอลกอฮอล์ 2-3 วันและงดสูบบุหรี่ 1 เดือน ก่อนผ่าตัดหนังหน้าท้อง
- นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอประมาณ 8-10 ชั่วโมง
- งดดื่มน้ำและงดรับประทานอาหารก่อนตัดหนังหน้าท้อง 8 ชั่วโมง
ดูแลตัวเองอย่างไร หลังเข้ารับการผ่าตัดหนังหน้าท้อง ?
- งดแผลผ่าตัดหน้าท้องถูกน้ำจนกว่าจะตัดไหม
- ทำความสะอาดแผลหลังผ่าตัดหนังหน้าท้องทุกวัน
- รับประทานยาบรรเทาอาการต่าง ๆ ตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด
- งดยืดตัวในช่วง 1-2 สัปดาห์แรก แนะนำให้นอนงอตัว เพื่อลดแรงตึงของผิวหน้าท้อง
- งดยกของหนัก งดออกกำลังกายหนัก ๆ ประมาณ 6 สัปดาห์หลังผ่าตัดหนังหน้าท้อง
- งดดื่มแอลกอฮอล์และงดสูบบุหรี่จนกว่าแผลจะหายสนิท เพราะอาจทำให้แผลหายช้า
- งดรับประทานอาหารไม่สุก อาหารหมักดอง และอาหารทะเล
- รับประทานอาหารอ่อน ๆ ย่อยง่าย เพื่อป้องกันการเกร็งหน้าท้องระหว่างเบ่งถ่ายอุจจาระ
- ระมัดระวังไม่ให้เกิดการเกร็งหน้าท้องแรง ๆ เช่น การไอ จาม หรือการถ่ายอุจจาระ
- เข้ามาพบแพทย์ตามนัด เพื่อติดตามอาการหลังการผ่าตัดหนังหน้าท้อง
- ใส่ชุดกระชับหน้าท้องตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด